พื้นชั้นที่ 1 ออกแบบและก่อสร้างรูปแบบ flat-slab สามารถรองรับการรับน้ำหนักได้ 1ตัน/ตร.ม. โครงสร้างหลัก main-frame เป็นโครงสร้างเหล็ก เสาเหล็ก โครงหลังคาและคานบางกริดไลเป็น cellular-beam พื้นรับชั้น 2 เป็นเมทรัลเด็ค ออกแบบและก่อสร้างทันสมัย เน้นความแข็งแรง ทนทานและความเร็วในการก่อสร้าง

การสร้างสำนักงานที่ดีต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายด้านเพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจแก่พนักงาน ต่อไปนี้คือเคล็ดลับสำหรับการสร้างสำนักงานที่ดี:

1. ทำเลที่ตั้ง:

• การเดินทางสะดวก: เลือกทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือมีที่จอดรถเพียงพอ เพื่อลดความเครียดในการเดินทางของพนักงาน
• สภาพแวดล้อมโดยรอบ: พิจารณาความปลอดภัย ความสะอาด และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ เช่น ร้านอาหาร ร้านค้า และสถานที่พักผ่อน เพื่อให้พนักงานสามารถทำธุระส่วนตัวได้สะดวก

2. การออกแบบและตกแต่งภายใน:

• แสงสว่าง: ให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติ และใช้แสงประดิษฐ์ที่เหมาะสม เพื่อสร้างบรรยากาศที่สบายตาและลดอาการล้า
• การระบายอากาศ: ระบบระบายอากาศที่ดีช่วยให้อากาศภายในสำนักงานบริสุทธิ์ ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค และเพิ่มความสดชื่นในการทำงาน
• พื้นที่ทำงาน: จัดสรรพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมกับประเภทของงาน และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายของพนักงาน
• พื้นที่ส่วนกลาง: สร้างพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องประชุม ห้องพักผ่อน หรือมุมกาแฟ เพื่อให้พนักงานได้พักผ่อนและมีปฏิสัมพันธ์กัน
• การตกแต่ง: ใช้สีและวัสดุที่สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน
• ความยืดหยุ่น: ออกแบบพื้นที่ให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการใช้งานที่หลากหลาย

3. สิ่งอำนวยความสะดวก:

• อินเทอร์เน็ต: อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เสถียรเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานในยุคดิจิทัล
• อุปกรณ์สำนักงาน: จัดหาอุปกรณ์สำนักงานที่ทันสมัยและเพียงพอต่อความต้องการใช้งานของพนักงาน
• ห้องประชุม: ห้องประชุมที่มีขนาดและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ช่วยให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น
• ห้องน้ำและห้องครัว: ห้องน้ำและห้องครัวที่สะอาดและเพียงพอต่อจำนวนพนักงาน เป็นสิ่งสำคัญต่อสุขอนามัยและความสะดวกสบาย
• สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ: พิจารณาสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ห้องออกกำลังกาย ห้องพยาบาล หรือพื้นที่สำหรับกิจกรรมสันทนาการ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความผ่อนคลายของพนักงาน

4. เทคโนโลยี:

• ระบบการจัดการอาคาร: ใช้เทคโนโลยีเพื่อควบคุมระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย
• ระบบการสื่อสาร: จัดหาเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย เช่น วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือแอปพลิเคชันแชท เพื่อให้การสื่อสารภายในทีมและกับลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น
• ระบบการทำงานอัตโนมัติ: ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดงานที่ซ้ำซากและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น ระบบการจัดการเอกสาร หรือระบบการจัดการโครงการ

5. วัฒนธรรมองค์กร:

• ความโปร่งใสและการสื่อสาร: สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง โปร่งใส และส่งเสริมการสื่อสารที่ดีระหว่างพนักงานและผู้บริหาร
• การทำงานเป็นทีม: ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและความร่วมมือระหว่างพนักงาน
• ความยืดหยุ่นในการทำงาน: ให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน เช่น การทำงานจากที่บ้าน หรือการปรับเวลาทำงาน เพื่อให้พนักงานมีความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
• การพัฒนาตนเอง: ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตนเองของพนักงานอย่างต่อเนื่อง

6. ความยั่งยืน:

• การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ: เลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน และออกแบบอาคารให้ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด
• การจัดการขยะ: จัดให้มีระบบการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการรีไซเคิล
• พื้นที่สีเขียว: สร้างพื้นที่สีเขียวภายในหรือรอบๆ สำนักงาน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและลดความเครียด

การสร้างสำนักงานที่ดีไม่ใช่เพียงแค่การสร้างพื้นที่ทำงาน แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สร้างความสุข และส่งเสริมความสำเร็จขององค์กร โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และปรับให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจและวัฒนธรรมองค์กร

*** การเลือกบริษัทออกแบบและก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และบริษัทที่ดีนั้น เป็นอีกหนึ่งการประกอบการตัดสินใจแรกที่สำคัญที่สุด